4 วิธีดูเเลตัวเอง ให้ดูดีมีออร่า

ในเวลานี้เเดดเมืองไทยร้อนเปรี้ยงๆมาก พวกน้องๆควรดูเเลผิวพรรณให้ดีเพราะถ้าละเลยการดูเเลผิวอาจเสียได้ 

1.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายในสมัยนี้เป็นทั้งการลดหุ่นป้องกันโรคเเถมยังทำให้ผิวพรรณเราดีอีกด้วย
การออกกำลังกายจะออกเเบบคาดิโอ ลดขา ลดพุง หรือจะเป็นการวิ่ง การทำงานรดน้ำต้นไม้ก็ถือเป็นการออกกำลังเสียให้เสียเหงื่อทั้งหมด

การคาดิโอ

การวิ่ง

2.ครีมกันเเดดอย่าให้ขาด 

ถ้าเราจะต้องออกไปด้านนอกเพื่อ ทำงาน ซื้อของ ทำอะไรต่อมิอะไร สิ่งที่ขาดไม่ได้คือครีมกันเเดด เลือกครีมกันเเดด 

สำหรับคนที่ผิวไวต่อเเดดให้ใช้ครีมกันเเดดที่มี่ SPF 30+ เพราะจะทำให้ผิวไม่คล้ำ 

สำหรับคนที่ผิวปกติไม่ไวต่อเเดดเเนะนำให้ใช้ครีมกันเเดดทีมี่SPF 15 ก็พอเเล้ว 

ครีมกันเเดด

                       

3. ขัดผิวอาทิตย์ละครั้ง 

วิธีการขัดก็ใช้ มะขามเปียก โยเกิร์ต นม ขัดสัปดาร์ละครั้ง ใช้ใยบวบขัด ผิวคุณจะสดชื่นดูเปล่งปลั่งมากๆ 

หรือจะใช้ครีมมะขามขัดผิวก็ได้ (อันนี้เด็ดมากใช้อยู่) 

ครีมมะขาม

4.พอกหน้าวันเว้นวัน 

สูตรพอกหน้า 

ทานาคา 

ขมิ้น 

นมหรือโยเกิร์ต 

ผสมให้เข้ากัน หน้าเเห้ง 10นาที หน้ามัน 20นาที 

ขอให้ทุกคนสวยๆหล่อๆทุกท่าน บทความนี้ไม่ได้copyหรือรีไรท์มาจากไหนก๊อปไปเเล้วกรุณาให้เครดิตลิ้งมาที่blogด้วยครับ 

5 อาชีพเสริม หารายได้เสริมเข้ามาดู

เศรษฐกิจตอนนี้ถือว่าย่ำเเย่มาก เเต่Tips-lnwมีอาชีพเสริมที่ให้ท่านได้ไปทำหาเงินกันได้ครับ

1.ติวเตอร์

 ติวเตอร์อาชีพตอนนี้มีทั้งเเบบpart time, full time ถ้าคุณมั่นใจว่าทักษะทางด้านการสอนของคุณเด็ดจริง อาชีพนี้ก็เป็นอาชีะที่น่าสนใจมาก

2.นักเขียน

นักเขียนไม่ได้จำกัดเเค่ในหนังสือเท่านั้นท่านที่มีความทักษะด้านนี้สามารถทำบทความขายทำe-bookหรือเขียนนิยาย ท่านสามารถทำเงินกับของเหล่านี้ได้เยอะเเยะเเน่นอนครับ

3.ค้าขาย

ช่วงเวลาเเบบนี้ ถึงเเม้จะดูว่าการค้าขายอาจจะขาดทุน เเต่ถ้าทำเลดี คุณภาพอาหารเยี่ยม คุณสามารถต่อยอดรายได้เสริมค้าขายนี้เป็นอาชีพหลักของคุณได้เลย ตัวอย่างเช่นข้าวเหนียวหมูปิ้งคุณสามารถขายตอนเช้า ตอนเที่ยง หรือเเม้กระทั้งตอนเย็น เพราะข้าวเหนียวหมูปิ้งเป็นอาหารที่กินได้ทุกเวลา

4.รับทำเว็บไซต์

ท่านใดที่มีความสามารถด้านภาษา php,asp ท่านจะได้รับเงินมหาศาลเพราะการรับทำเว็บ ทำเว็บไซต์ขาย กระเเสตอนนี้บูมมากๆ ถ้าท่านสนใจด้านนี้ลองมองหาลูกค้าของคุณเเละใช้โอกาศนั้นในการทำเงินซะเลย

5.ขายภาพ

ถ้าท่านมีกล้องคุณภาพพอใช้ได้บวกกับความคิดสร้างสรรค์บวกกับวิวหรือที่สวยๆท่านสามารถถ่ายภาพเเละเอาไปขายได้ เช่นเว็บชัตเตอสต๊อก คนไทยที่ทำงานเสริมในนี้มีคนบอกว่ารายได้ดีเลยหล่ะ

ถึงจะมีเเนวคิดการทำอาชีะเสริมเเล้ว เเต่ถ้าหากคุณไม่เริ่มลงมือเงินก็ไม่ไหลเข้ามาเทมา ดังนั้นถ้าเห็นว่าอะไรเหมาะสมที่สุดเเล้วก็จงลงมือทำซะ

Kingofmoney

ปิดเทอมอยากหาเงิน? เข้ามาดู

ปิดเทอมอยากหาเงินอยากทำอะไรเข้ามาดู

น้องๆเพื่อนๆพี่ที่เข้ามาดูนี้คงหาหาช่องทางการทำเงินอยู่Tips-inw  ขอเสนอ  ข้อดังนี้

1. งานบริการ

หลายคนคงชอบงานเเนวนี้นะครับ เป็นงานมีทั้ง

part time,fulltime ค่าจ้างมีตั้งเเต่เเบบต่อวันเเละต่อชั่วโมงตัวอย่างงาน เช่น KFC,macdonal,

se-ed,

2.งานเขียน

สมัยนี้มีการทำงานเขียนทำรายได้มากมาย เช่น เขียนบทความขาย เขียนนิยายขาย

เขียนe-book

เช่น บทความ มาตรฐานราคา 10บาทต่อ100คำ เขาจะรับอยู่ที่ 500คำต่อ1บทความ เเหล่งซื้อ-ขายบทความ https://www.facebook.com/groups/thaicontentmarket/ 

3.งานทางอินเตอร์เน็ต,ออนไลน์

งานเเนวนี้มีให้ทำเยอะเเยะ เช่น การทำเว็บไซต์หาโฆษณามาติด, ทำคลิปลงยูทูปเเล้วติดโฆษณา,

4.ค้าขาย

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อน!!

ถ้าน้องๆมีงบสักนิดหน่อยน้องๆอาจจะขายข้าวต้ม,ข้าวเหนียวหมูปิ้ง, เพื่อเอากำไรเล็กๆน้อยได้ เเละยังมีเวลาไปทำงานอื่นๆด้านบนอีกด้วย

การทำงานทุกทุกงานมีการลงทุนทั้งนั้น เช่นเวลา,เงิน น้องๆควรหางานที่เหมาะกับตัวเองที่ถนัดเเล้วน้องจะทำได้ดี ขอให้น้องๆทุกคนประสบกับความสำเร็จในการหางานหาเงินครับ รวยๆๆ

เรื่องเล่าของ ในหลวง ที่คนไทยควรอ่าน

เรื่อง... ซุ้มสำหรับในหลวง ...
ระยะแรกราวปี พ.ศ.2498 เป็นต้นมา 
คราใดที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระราชวังไกลกังวลนั้น 
จะทรงขับรถยนต์พระที่นั่งไปยังท้องที่ห่างไกลทุรกันดารย่านหัวหิน หนองพลับ แก่งกระจาน 
ด้วยพระองค์เอง ทำนองเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ห้า โดยที่ราษฎรไม่รู้ตัวล่วงหน้าว่าทรงมาถึงแล้ว 
วันหนึ่งทรงขับรถยนต์พระที่นั่งผ่านไปถึงยังบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านหมู่บ้านห้วยมงคล อำเภอหัวหิน 
ซึ่งราษฎรกำลังช่วยกันตบแต่งประดับซุ้มรับเสด็จกันอย่างสนุกสนานครื้นเครง 
และไม่คาดคิดว่าเป็นรถยนต์พระที่นั่งส่วนพระองค์ จึงไม่ยอมให้รถผ่าน
...ต้องให้ในหลวงเสด็จฯก่อนแล้วพรุ่งนี้ถึงจะลอดผ่านซุ้มได้... 
วันนี้ห้ามลอดผ่านซุ้มนี้ เพราะขอให้ในหลวงผ่านก่อน
พระองค์จึงทรงขับรถพระที่นั่งเบี่ยงออกข้างทางไม่ลอดซุ้มดังกล่าว.... 
วันรุ่งขึ้นเมื่อทรงขับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในหมู่บ้านนี้อย่างเป็นทางการ
พร้อมคณะข้าราชบริพารผู้ติดตาม และทรงมีพระดำรัสทักทายกับชายผู้นั้นที่เฝ้าอยู่หน้าซุ้มเมื่อวันวานว่า 
“วันนี้ฉันเป็นในหลวง..คงผ่านซุ้มนี้ได้แล้วนะ..” 

เรื่อง... คล่องราชาศัพท์ ...
อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสาน เมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่ง
คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายต่างก็แปลกใจในการกราบบังคมทูลที่คล่องแคล่ว 
และใช้ราชาศัพท์ได้ดีอย่างน่าฉงน ของราษฎรผู้นั้น
เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ดีนี้ จึงมีคำกราบทูลว่า 
“ ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่า บัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวน พระพุทธเจ้าข้า. .” 
มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือน ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว.. 
พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า “ มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว 
ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว ” 
เรื่องนี้ ดร.สุเมธเล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะ ไม่ยกเว้นแม้แต่ในหลวง... 

เรื่อง... จะให้เป็นช่างจริง ...
มีเรื่องนึงเคยฟังจากผู้ใหญ่เล่าเมื่อนานมาแล้ว 
มีช่างไปทำฝ้าเพดานในวัง คนนึงกำลังยืนบนบันได ส่วนหัวอยู่ใต้ฝ้า 
อีกคนคอยจับบันไดอยู่ด้านล่าง พอดีในหลวงเสด็จมา 
คนที่อยู่ข้างล่างเห็นในหลวงก็ก้มลงกราบ คนอยู่ด้านบนไม่เห็น ก็บอกว่า 
“เฮ้ยๆ จับดีๆ หน่อยสิ อย่าให้แกว่ง” 
ในหลวงทรงจับบันไดให้ เค้าก็บอกว่า “เออ ดีๆ เสร็จงานนี้จะให้เป็นช่างจริง” 
(สงสัยคงจะเพิ่งเข้ามาทำงานยังไม่ผ่านโปร) พอเสร็จก็ก้าวลง 
พอเห็นว่าในหลวงเป็นคนจับบันไดให้ ถึงกับเข่าอ่อน แทบจะตกบันได รีบลงมาก้มกราบ 
ในหลวงทรงตรัสกับช่างว่า “ แหม ดีนะที่ชมว่าใช้ได้ แถมจะปรับตำแหน่งให้เป็นช่างอีกด้วย ”


เรื่อง... ไม่ใช่ มิกกี้เมาส์ ...
เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น
เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่นเรื่องขออนุญาต
นำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษ 
ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า “ ไปบอกเค้านะ เราไม่ใช่มิกกี้เมาส์ ” 

เรื่อง... ชื่อเดียวกัน ...
เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวง ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดิน 
เพราะเรียนมาตั้งแต่เล็กแต่ไม่เคยได้ใช้เมื่อออกงานใหญ่จึงตื่นเต้นประหม่า ซึ่งเป็นธรรมดาของคนทั่วไป 
และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน 
หรือกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทในพระราชานุกิจต่างๆนานัปการ 
ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ เคยเล่าให้ฟังว่า 
ด้วยพระบุญญาธิการและพระบารมีในพระองค์นั้นมีมากล้น
จนบางคนถึงกับไม่อาจระงับอาการกิริยาประหม่า
ยามกราบบังคมทูล จึงมีผิดพลาดเสมอ แม้จะซักซ้อมมาเป็นอย่างดีก็ตาม 
ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน มีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงานว่า 
“ ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พลตรีภูมิพลอดุลยเดช 
ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตกราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ ” 
เมื่อคำกราบบังคมทูล ในหลวงทรงแย้มพระสรวลอย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า 
“ เออ ดี เราชื่อเดียวกัน.. .” 
ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย 
เพราะผู้กราบบังคมทูลรายงานตื่นเต้น จนกระทั่งจำชื่อตนเองไม่ได้ 

เรื่อง... แอลกอฮอล์เข้มข้น ...
เหตุการณ์เมื่อปี 2513 วันนั้นท่านทรงเสด็จไปหมู่บ้านท้ายดอยจอมหด อ.พร้าว เชียงใหม่ 
ผู้ใหญ่บ้านลีซอกราบทูลชวนให้ไปแอ่วบ้านเฮา ท่านก็ทรงเสด็จ ตามเขาเข้าไปในบ้าน 
ซึ่งทำด้วยไม้ไผ่และมุงหญ้าแห้ง เขาเอาที่นอนมาปูสำหรับให้พระองค์ประทับ 
แล้วก็รินเหล้าทำเองใส่ถ้วยที่คงไม่ค่อยจะได้ล้าง จนมีคราบดำๆ จับอยู่ 
ทางผู้ติดตามรู้สึกเป็นห่วงพระองค์ท่าน เพราะปกติไม่ทรงใช้ถ้วยที่มีคราบ จึงกระซิบทูลว่า
ควรจะทรงแค่ทำท่าเสวย แล้วส่งถ้วยมาพระราชทาน ผู้ติดตามจะจัดการเอง 
แต่ท่านก็ทรงดวดเอง กร้อบเดียวเกลี้ยง หลังจากนั้นจึงทรงรับสั่งว่า 
“ ไม่เป็นไร แอลกอฮอล์เข้มข้นเชื้อโรคตายหมด ”


เรื่อง... คนในแบงค์ ...
อีกเรื่องหนึ่งที่ได้ยินมา..เมื่อคราวที่ทูลกระหม่อมฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ประทับที่ รพ.ศิริราช 
ช่วงเช้าตรู่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พยาบาลที่ถวายงานพยาบาลอยู่จึงไปรับสาย ก็มีเสียงปลายทางพูดมาว่า 
“ ขอสายฟ้าหญิง ” พยาบาลที่รับสายจึงถามกลับไปว่า ..ขอประทานโทษค่ะใครจะเรียนสายด้วยค่ะ.. 
“ บอกเขาว่าคนในแบงค์โทร.มา ” อีกฝ่ายตอบกลับมา คุณพยาบาลถามกลับไปว่า..ธนาคารไหนค่ะ 
และคิดในใจว่ายังเช้าอยู่อย่างนี้โทร.มาเรื่องอะไร .. แต่พอกลับมานั่งทบทวนว่า...คนในแบงค์โทร.มา...
ถึงกับตื่นเต้นตกใจขนลุกขนพองเพราะคนในแบงค์ ก็คือ..ในหลวง..นั่นเอง...

เรื่อง... ต้องเรียกน้าซิ ...
วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด
ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมายพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาท
ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราคนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาทแล้วก็เอามือของแกมาจับ
พระหัตถ์ของในหลวง แล้วก็พูดว่ายายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง
แล้วก็พูดว่ายายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรงเฉย ๆ
มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร แต่พวกข้าราชบริภารก็มองหน้ากันใหญ่
กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัยหรือไม่
แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคนนั้น
ก็ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะ พระองค์ทรงตรัสว่า
“ เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ ต้องเรียกน้าซิ ถึงจะถูก ”

เรื่อง... แขนตกสะพาน ...
พระองค์ท่านเสด็จไปที่จังหวัดสกลนคร เพื่อเยี่ยมเยียนชาวบ้าน
และพระองค์ก็ทรงตรัสถามชายคนหนึ่งที่มาเข้าเฝ้า เพราะแขนเจ็บเข้าเฝือก
ในหลวงทรงรับสั่งถามว่า “ แขนเจ็บไปโดนอะไรมา ”
ชายคนนั้นตอบว่า “ ตกสะพาน ”
แล้วในหลวงทรงรับสั่งกลับไปอีกว่า “ แล้วแขนอีกข้างหนึ่งละ ”
ชายคนนั้นก็ตอบกลับมาอีกว่า “ แขนข้างนี้ไม่ได้ตกลงไปด้วย ตกข้างเดียว ”
ในหลวงของเราก็ทรงพระสรวล.....


เครดิต http://pantip.com/topic/31341673

5 ข้อ ของ ”ในหลวง” ที่คุณอาจไม่รู้

5 ข้อ ของ ”ในหลวง” ที่คุณอาจไม่รู้

 

1.ทรงพระราชสมภพเวลา 08.45น. (เวลาท้องถิ่น สหรัฐฯ)

2. ทรงมีชื่อเล่นว่า “เล็ก” หรือ “พระองค์เล็ก”

3 .โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จนถึงปัจจุบันมีจำนวนกว่า 3,000 โครงการ

4.ดอกไม้ประจำพระองค์ คือ ดอกดาวเรือง

5.ในหลวงทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดในโลก

We love the king

We love thailand

10 ข้อพื้นฐานการเช็ค SEO สำหรับนักทำ SEO มืออาชีพ

SEO checklist 10 ข้อ ที่ควรปฏิบัติของนักทำ SEO

  วิธีการที่ผมจะแนะนำสำหรับการเช็ค SEO ต่อไปนี้นั้น เป็นเพียงหลักการพื้นฐานสุดๆ ก็ว่าได้ ซึ่งความจริงแล้วการเช็ค SEO มีมีเทคนิคและวิธีการมากกว่านี้ มีรายละเอียดที่ลึกซึ้ง และมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่อย่างว่าครับ การทำอะไรก็ตามการยึดหลักการพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะนำไปต่อยอด และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในการทำ SEO ก็เช่นกัน เราสามารถตรวจสอบหรือเช็ค SEO กับเว็บไซต์ของเราว่าเราได้ปรับ SEO ถูกต้องตามหลักการที่ควรจะเป็นหรือไม่ เพื่อที่จะสนับสนุน Search Engine ให้มากที่สุดครับ และแน่นอนที่สุด เสิร์ทเอ็นจิ้นที่ผมหมายถึง ก็คือ Google Search นั่นเองครับ ทุกวันนี้มีผู้ใช้งาน Google มากกว่า Search Engine ตัวอื่น ในการเช็ค SEO ก็เช่นกันครับ เราจะยึดหลักการให้สอดคล้องและสนับสนุนกับระบบของ Google ให้มากที่สุด การเช็ค SEO มีประโยชน์ต่อผู้ทำเอสอีโอเป็นอย่างมาก เพราะเราจะเข้าใจได้ทันทีว่าสิ่งที่เรากำลังทำนั้น ถูกต้องหรือไม่ ควรปรับแก้ตรงจุดไหน อีกทั้ง เราสามารถนำวิธีการเดียวกันไปตรวจสอบเว็บไซต์ของคู่แข่ง เพื่อที่จะประเมินขุมกำลังของคู่แข่งแบบคล่าวๆ ว่าเราควรทำ SEO อย่างไร จึงจะสามารถชนะหรือแซงคู่แข่งของเราได้

เริ่มต้น Check SEO จากส่วนบนสุดของเว็บไซต์จนถึงล่างสุดของเว็บไซต์

1. ให้พิม Site:yourwebsite.com ที่ Google Search แล้วทำการเช็ค Title ว่าเขียนได้น่าสนใจ น่าคลิ๊ก และสื่อความหมายให้กลุ่มเป้าหมายของเราไหม เพราะชื่อที่ดี จะช่วยเพิ่มอัตราการคลิ๊กเข้าเว็บไซต์ และมีผลกับ SEO อย่างมาก
2. เกี่ยวกับเรื่องของ Description คำอธิบายเพิ่มเติม ให้รายละเอียดได้ยาวกว่า Title สื่อความหมายชัดเจนว่าหน้าเว็บไซต์นี้ เกี่ยวข้องกับอะไร เชิญชวนให้คนที่สนใจคลิ๊ก และกลายเป็นลูกค้าของเราเพิ่มมากขึ้น
3. ที่อยู่เว็บไซต์ (URL Address) เข้าใจง่าย ยกตัวอย่าง เช่น wwww.example.com หรือ www.example.com/example-name เขียนให้คนอ่านเข้าใจง่าย เพราะในบ้างครั้ง เราอาจจะต้องส่ง URL ให้คนที่สนใจสอบถามข้อมูล หากที่อยู่เว็บไซต์ (URL) อ่านเข้าใจง่ายสื่อความหมายได้ดี จะช่วยให้ผู้รับเข้าใจได้รวดเร็วขึ้น
4. เปิดหน้าเว็บไซต์เพียง 4 - 5 วินาที เข้าใจทันทีว่าเว็บไซต์นี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ขายอะไร ถ้าจะสั่งซื้อหรือจะติดต่อได้ที่ไหน
5. หาข้อมูลในเว็บไซต์ทำได้ง่ายไหม ให้เพื่อนที่ไม่เคยเข้าเว็บไซต์มาก่อน ลองเข้าเว็บไซต์ดูว่า ใช้งานได้ง่าย หาสิ่งที่ต้องการเจอหรือไม่
6. ตรวจเช็คว่า Images ใส่คำอธิบายภาพ (img alt) ไว้หรือไม่ วิธีการเช็คคือ : คลิ๊กขวาที่ภาพ และ กด ‘ Inspect element ‘ มองหาโค๊ด alt=”…” ว่ามีข้อความอธิบายเกี่ยวกับภาพหรือไม่ ข้อความตรงส่วนนี้ Google จะใช้ใน Google Images อีกด้วย
7. เนื้อหา Text ในหน้าเว็บไซต์มีข้อมูลดี น่าสนใจ เชิญชวนให้ยูสเซอร์อ่านจบ มีประโยชน์ และกระแทกใจเร้าอารมณ์ผู้อ่านมากพอไหม เพราะนี้ส่วนหนึงที่ช่วยให้คนอ่านมันจนจบ และแชร์ต่อไปยัง Facebook , Google Plus หรือ Twitter ได้
8. เขียนเนื้อหาไม่ซ้ำใคร (Unique Content) เพราะมันจะช่วยเร่งความเจ๋งของเว็บไซต์ คนอ่านชอบ Google ก็ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ของเรา และมองว่าเว็บเรามีคุณภาพอีกด้วย
9. ส่วนล่างสุดเว็บ (Footer) มี Nagivator Menu ที่ใช้งานแบบง่าย เพราะบ่อยครั้งมากที่คนจะเลื่อนลงด้านล่างสุด แต่อินเตอร์เน็ตช้าไม่เห็นภาพ การเห็นเมนูด้างล่างจะช่วยให้คนอ่านเข้าใจ และคลิ๊ก Link ต่อได้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หรือล
10. เว็บไซต์ดู Clean สะอาดตา ไม่รก หรือทำให้รู้สึกอึดอัด และไม่มีเนื้อหาที่เก่าเก็บล้าสมัย การอัพเดทเนื้อหา และเลือกใช้ภาพประกอบที่ทันสมัยสวย ช่วยสร้างแบรนด์ได้ดี

10 วิธีการหาkeyword สำหรับทำseo

แนะนำวิธีใช้ Keyword ให้เป็นประโยชน์ สำหรับบล็อก หรือ เว็บไซต์ของเรา เพราะการทำ SEO ให้ได้ผล จะต้องมีองค์ประกอบที่เรียกว่า Keyword ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการทำ SEO ครับ

เอาละ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับเพื่อนๆ 

การใช้งาน Keyword

Keyword คือ คำหรือข้อความ ที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต พิมพ์ลงไปเพื่อใช้ในการ ค้นหาเว็บไซต์ หรือข้อมูลต่าง ๆ ความหมายของ Keyword นั้น จะเป็นคำ ที่ใช้ในการอธิบายรูป ลักษณะของเอกสาร เช่น ชื่อเรื่อง หัวข้อ หัวเรื่อง รายละเอียดอย่างย่อของเอกสาร เพื่อความสะดวก และความรวดเร็ว ในการสืบค้น

ดังนั้น Keyword จะเป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำตัว  ของบล็อก หรือเว็บไซต์ของเรา เราควรใส่ keyword ในเว็บเพจตรงใหนดี จึงได้ผลดีกับธุรกิจของเรา

1. ใส่ keyword ที่บริเวณ ชื่อหน้าเพจ
2. ใส่ keyword ที่บริเวณชื่อหัวข้อของเนื้อหา
3. ใส่ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนแรก ใส่ Keyword ไว้ในตำแหน่ง 20 คำแรกโดยประมาณ ให้ชัดเจน
4. ใส่ keyword ที่บริเวณ ลิงค์เชื่อมโยงมาตรฐาน คือการเชื่อมโยงในลักษณะ การใช้ Text link เป็นตัวเชื่อมโยง แล้วแทรก Keyword ผสมเข้าไปด้วย
5. ใส่ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนสุดท้ายของหน้า เพื่อช้ในการสรุปเนื้อหา
6. ใส่ keyword ที่บริเวณ เมนูเลื่อนลง Drop down menu นี้เป็นที่ซ่อน Keyword ที่ดีอีกที่ ซึ่งไม่ควรมองข้าม
7. ใส่ keyword ตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ หากใช้ Keyword มากกว่า 1คำ ควรใช้เครื่องหมาย ” – ” เป็นตัวคั่นกลาง
8. ใส่ keyword ที่บริเวณ คำอธิบายรูปภาพ เพราะว่า Search Engine ไม่รู้จักรูปภาพ แต่เราสามารถบอกได้ด้วยวิธีนี้
9. ใส่ keyword ที่บริเวณ คำอธิบาย ลิงค์
10. ใส่ keyword ในการจด Domain name

Tips 10 ข้อห้าม ในการทำ SEO

10 ข้อห้าม ในการทำ SEO หากคุณเผลอทำไป แก้ไขอะไรได้ก็รีบแก้ซะนะครับ ก่อนนะโดนเก็บนะครับ

1. ห้ามโกง Search Engine  ในทุกๆ วิธี จะทำอะไรก็ทำแต่ พองาม นะครับ บาง คนอาจจะบอกว่า "ก็มันติดหน้าแรกเร็วนี่" เคยได้ยินคำว่า มาไวไปไวมั้ยล่ะครับ โดนแบนมาเมื่อไหร่อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ อยากให้จำสุภาษิตนึงไว้ว่า "ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน" อย่าหลงเข้าไปอยู่ในด้านมืดของ SEO นะครับ

2. อย่าให้เห็นนะว่า link ไหนเข้าไม่ได้  การทำมี link ตัวไหนซักตัว นี่ก็เป็น ผลเสียของ SEO เช่นกันครับ เพราะ บรรดา Search Engine จะมองว่า เว็บที่มี link เสีย หรือที่เรียกกันว่า Broken Link นั้นเป็นเว็บไม่มีคุณภาพ ไม่นาเชื่อถือ เอาล่ะว่าแล้วก็รีบเช็คกันเลยนะครับ เช็ค Broken Link

3. Hosting ที่ให้บริการมีคุณภาพต่ำ  เรื่องนี้ก็เห็นใจนะครับ เพราะปรกติ เราจ่ายค่าโฮสเป็นรายปี ก็ใช้ไปแล้วนี่เนอะ อืม...อยากบอกว่า ถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนเถอะครับ เพราะ อยากให้คุณลองวัดที่ตัวคุณเองดูว่าเวลาเข้าเว็บไหน ที่มันโหลดนานๆ คุณจะอยากเข้ามั้ย หรือ เข้าเว็บไหน แล้วมันกลายเป็น Page Not Found คุณจะกลับมาเข้าเว็บนี้อีกมั้ย และ ก็จงอย่าแปลกใจเลย หาก คุณทำ SEO ขั้นเทพแล้ว เว็บยังไม่ติดอันดับ ซักที อาจเป็นเพราะ บอท มันมาเจอคำว่า Page Not Found ตอนมาเว็บคุณก็เป็นได้

4. link ไปเว็บที่เนื้อหาไม่สอดคล้องกับเว็บเรา  เนื้อหาเว็บ กับเว็บที่เรา link ไปหาก็เกี่ยวเหมือนกันนะครับ เพราะ Google panda Algorithm นอกจากจะวัดคุณภาพจากเนื้อหาในเว็บของคุณแล้ว ยังวัดจาก link ที่ไปจากเว็บของคุณด้วยเช่นกัน จะแลก link กับเว็บไหนจะดูแต่ PR ไม่ได้นะครับ ต้องดูเนื้อหาเว็บด้วยครับ

5. link เข้ามามากผิดปรกติ  คุณเป็นคนนึงหรือป่าวที่ submit directory ที่เดียว 500 กว่าเว็บ Google คงไม่ปลื้มแน่ถ้าเห็นเว็บไหนทำแบบนี้ เรียกว่าไม่เนียน เอาซะเลย ค่อยๆ ทำดีกว่าครับ เนียนๆ ดูเป็นธรรมชาติ อยากให้จำสุภาษิตนึงไว้ (อีกแระ) ว่า "ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม" วันนึง 10 เว็บ 20 เว็บ ก็พอแล้วครับค่อยๆ นะ ค่อยๆ อ้อ !! อีกเรื่องครับ เว็บที่ link เข้ามาต้องเป็นเว็บที่เนื้อหาสอดคล้องกับเว็บคุณเหมือนกันนะครับ

6. อย่าทำ Gray SEO อย่างน่าเกลียด  คำพระสอนไว้ว่าให้เดินสายกลาง เราก็ทำ SEO กันแบบสีเทาๆ เหอๆ เค้ามี สายขาว กับ สายดำ เราสายเทา ว่างั้น อืม...บาปเบาๆ ทำบ่อยๆ มันก็เป็นบาป หนักได้เหมือนกันนะครับ เพราะ ฉะนั้น Gray SEO ถ้าเราคิดว่าเฮ้ย "ไม่เป็นไร" แล้วอัดมันทุกวันล่ะก็ มันก็จะกลายเป็นเหมือนกับคุณกำลังทำ Black SEO อยู่ แล้วก็รอวันโดนแบนได้เลยล่ะครับ

7. ทำตัวเป็นโจรขโมยเนื้อหา  นอกจากจะบาป แล้ว คริสต์ก็ผิดพระบัญญัติข้อ 8 ทาง พุทธก็ผิดศีลข้อ 2 ทาง Search Engine ก็มองว่าคุณ Duplicate Content อีกด้วย ผมเคยพูดถึงเรื่องนี้ในบทความ Google panda คืออะไร Duplicate Content คือ การก็อปปี้ หรือ ขโมย เนื้อหาข้อมูลมากจากเว็บไซต์อื่นๆ มาเว็บในเว็บของคุณเอง Google ก็จะมีหน้าที่เป็นตำรวจมาจับขโมยนั่นเอง

8. ทำ Cloaking  เหอๆ จะกลายเป็นบทความศาสนา แล้วมั้ง ก็คือ ข้อนี้บาปครับ และ นอกจากนี้ ทาง Search Engine ก็มองว่าเว็บคุณ

ไม่ดีด้วย การทำ Cloaking การทำหน้าเว็บเพื่อหลอก Bots หรือ Crawler ของ Search Engine โดยทำเพื่อให้เว็บติดอันดับอย่างรวดเร็ว ครับ เหมือนกับการโกหก แหละครับ บาปกรรม นะ

9. หลีกเลี่ยงโปรแกรมช่วยทำ SEO ใครมาชวนให้ลองบอกไปเลยว่าไม่ เพราะ Search Engine เค้าฉลาดนะ จับได้หมดแหละครับ

อย่าพยายามเลย ไอ้วิธีนี้อ่ะไม่ได้ผลหรอกครับ เข้าข่าย ข้อ1 โกง Search Engine นะครับ

10. การทำ Redirects   มาถึงข้อนี้อาจมีคนท้วงผมครับว่า "จำได้นะว่าเคยให้ทำ แนะนำไว้ในบทความที่ชื่อว่า 18 สิ่งง่ายๆเกี่ยวกับ SEO ที่นักพัฒนาเวปไซท์มักจะมองข้ามไป" ใช่ครับผมเคยบอกไว้ การทำ Redirect นั้นควรทำแต่ต้องทำอย่างถูกวิธีครับทำได้แค่วิธีที่ชื่อว่า 301 redirect เท่านั้นครับ ถ้าเป็นประเภท <META HTTP-EQUIV='Refresh' อะไรแบบนั้น อย่าครับ ห้ามเด็ดขาด

1. ห้ามโกง Search Engine  ในทุกๆ วิธี จะทำอะไรก็ทำแต่ พองาม นะครับ บาง คนอาจจะบอกว่า "ก็มันติดหน้าแรกเร็วนี่" เคยได้ยินคำว่า มาไวไปไวมั้ยล่ะครับ โดนแบนมาเมื่อไหร่อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ อยากให้จำสุภาษิตนึงไว้ว่า "ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน" อย่าหลงเข้าไปอยู่ในด้านมืดของ SEO นะครับ

2. อย่าให้เห็นนะว่า link ไหนเข้าไม่ได้  การทำมี link ตัวไหนซักตัว นี่ก็เป็น ผลเสียของ SEO เช่นกันครับ เพราะ บรรดา Search Engine จะมองว่า เว็บที่มี link เสีย หรือที่เรียกกันว่า Broken Link นั้นเป็นเว็บไม่มีคุณภาพ ไม่นาเชื่อถือ เอาล่ะว่าแล้วก็รีบเช็คกันเลยนะครับ เช็ค Broken Link

3. Hosting ที่ให้บริการมีคุณภาพต่ำ  เรื่องนี้ก็เห็นใจนะครับ เพราะปรกติ เราจ่ายค่าโฮสเป็นรายปี ก็ใช้ไปแล้วนี่เนอะ อืม...อยากบอกว่า ถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนเถอะครับ เพราะ อยากให้คุณลองวัดที่ตัวคุณเองดูว่าเวลาเข้าเว็บไหน ที่มันโหลดนานๆ คุณจะอยากเข้ามั้ย หรือ เข้าเว็บไหน แล้วมันกลายเป็น Page Not Found คุณจะกลับมาเข้าเว็บนี้อีกมั้ย และ ก็จงอย่าแปลกใจเลย หาก คุณทำ SEO ขั้นเทพแล้ว เว็บยังไม่ติดอันดับ ซักที อาจเป็นเพราะ บอท มันมาเจอคำว่า Page Not Found ตอนมาเว็บคุณก็เป็นได้

4. link ไปเว็บที่เนื้อหาไม่สอดคล้องกับเว็บเรา  เนื้อหาเว็บ กับเว็บที่เรา link ไปหาก็เกี่ยวเหมือนกันนะครับ เพราะ Google panda Algorithm นอกจากจะวัดคุณภาพจากเนื้อหาในเว็บของคุณแล้ว ยังวัดจาก link ที่ไปจากเว็บของคุณด้วยเช่นกัน จะแลก link กับเว็บไหนจะดูแต่ PR ไม่ได้นะครับ ต้องดูเนื้อหาเว็บด้วยครับ

5. link เข้ามามากผิดปรกติ  คุณเป็นคนนึงหรือป่าวที่ submit directory ที่เดียว 500 กว่าเว็บ Google คงไม่ปลื้มแน่ถ้าเห็นเว็บไหนทำแบบนี้ เรียกว่าไม่เนียน เอาซะเลย ค่อยๆ ทำดีกว่าครับ เนียนๆ ดูเป็นธรรมชาติ อยากให้จำสุภาษิตนึงไว้ (อีกแระ) ว่า "ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม" วันนึง 10 เว็บ 20 เว็บ ก็พอแล้วครับค่อยๆ นะ ค่อยๆ อ้อ !! อีกเรื่องครับ เว็บที่ link เข้ามาต้องเป็นเว็บที่เนื้อหาสอดคล้องกับเว็บคุณเหมือนกันนะครับ

6. อย่าทำ Gray SEO อย่างน่าเกลียด  คำพระสอนไว้ว่าให้เดินสายกลาง เราก็ทำ SEO กันแบบสีเทาๆ เหอๆ เค้ามี สายขาว กับ สายดำ เราสายเทา ว่างั้น อืม...บาปเบาๆ ทำบ่อยๆ มันก็เป็นบาป หนักได้เหมือนกันนะครับ เพราะ ฉะนั้น Gray SEO ถ้าเราคิดว่าเฮ้ย "ไม่เป็นไร" แล้วอัดมันทุกวันล่ะก็ มันก็จะกลายเป็นเหมือนกับคุณกำลังทำ Black SEO อยู่ แล้วก็รอวันโดนแบนได้เลยล่ะครับ

7. ทำตัวเป็นโจรขโมยเนื้อหา  นอกจากจะบาป แล้ว คริสต์ก็ผิดพระบัญญัติข้อ 8 ทาง พุทธก็ผิดศีลข้อ 2 ทาง Search Engine ก็มองว่าคุณ Duplicate Content อีกด้วย ผมเคยพูดถึงเรื่องนี้ในบทความ Google panda คืออะไร Duplicate Content คือ การก็อปปี้ หรือ ขโมย เนื้อหาข้อมูลมากจากเว็บไซต์อื่นๆ มาเว็บในเว็บของคุณเอง Google ก็จะมีหน้าที่เป็นตำรวจมาจับขโมยนั่นเอง

8. ทำ Cloaking  เหอๆ จะกลายเป็นบทความศาสนา แล้วมั้ง ก็คือ ข้อนี้บาปครับ และ นอกจากนี้ ทาง Search Engine ก็มองว่าเว็บคุณ

ไม่ดีด้วย การทำ Cloaking การทำหน้าเว็บเพื่อหลอก Bots หรือ Crawler ของ Search Engine โดยทำเพื่อให้เว็บติดอันดับอย่างรวดเร็ว ครับ เหมือนกับการโกหก แหละครับ บาปกรรม นะ

9. หลีกเลี่ยงโปรแกรมช่วยทำ SEO ใครมาชวนให้ลองบอกไปเลยว่าไม่ เพราะ Search Engine เค้าฉลาดนะ จับได้หมดแหละครับ

อย่าพยายามเลย ไอ้วิธีนี้อ่ะไม่ได้ผลหรอกครับ เข้าข่าย ข้อ1 โกง Search Engine นะครับ

10. การทำ Redirects   มาถึงข้อนี้อาจมีคนท้วงผมครับว่า "จำได้นะว่าเคยให้ทำ แนะนำไว้ในบทความที่ชื่อว่า 18 สิ่งง่ายๆเกี่ยวกับ SEO ที่นักพัฒนาเวปไซท์มักจะมองข้ามไป" ใช่ครับผมเคยบอกไว้ การทำ Redirect นั้นควรทำแต่ต้องทำอย่างถูกวิธีครับทำได้แค่วิธีที่ชื่อว่า 301 redirect เท่านั้นครับ ถ้าเป็นประเภท <META HTTP-EQUIV='Refresh' อะไรแบบนั้น อย่าครับ ห้ามเด็ดขาด

Tips 10 ข้อพื้นฐานการเช็ค SEO

SEO checklist : 10 ข้อพื้นฐานการเช็ค SEO

10

ข้อ ในการเช็ค SEO พื้นฐาน ว่าเว็บไซต์ของเราดีกับ SEO หรือไม่ ขั้นตอนเช็คทำได้ง่ายและลงมือทำได้เองด้วยเครื่องมือที่มีอยู่ ถ้าพร้อมแล้วลุยเลยครับ

 

เช็ค Title&Description

เริ่มต้น Check SEO จากส่วนบนสุดของเว็บไซต์จนล่างสุดของเว็บไซต์

1. พิม Site:yourwebsite.com ที่ Google Search แล้วเช็ค Title ว่าเขียนได้น่าสนใจ น่าคลิ๊ก และสื่อความหมายให้กลุ่มลูกค้าของเราไหม เพราะชื่อที่ดี จะช่วยเพิ่มอัตราการคลิ๊กเข้าเว็บไซต์ และมีผลกับ SEO อย่างมาก
2. Description คำอธิบายเพิ่มเติม ให้รายละเอียดได้ยาวกว่า Title สื่อความหมายชัดเจนว่าหน้าเว็บไซต์นี้ เกี่ยวข้องกับอะไร เชิญชวนให้คนที่สนใจคลิ๊ก และกลายเป็นลูกค้าของเราเพิ่มมากขึ้น
3. ที่อยู่เว็บไซต์ (URL) เข้าใจง่าย ยกตัวอย้างเช่น wwww.example.com หรือ www.example.com/example-name เขียนให้คนอ่านเข้าใจง่าย เพราะในบ้างครั้ง เราอาจต้องส่ง URL ให้คนที่สนใจสอบถามข้อมูล หากที่อยู่เว็บไซต์ (URL) อ่านเข้าใจง่ายสื่อความหมายได้ดี จะช่วยให้ผู้รับเข้าใจได้รวดเร็วขึ้น
4. เปิดหน้าเว็บไซต์เพียง 4 วินาที เข้าใจทันทีว่าเว็บไซต์นี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ขายอะไร ถ้าจะสั่งซื้อหรือจะติดต่อได้ที่ไหน
5. หาข้อมูลในเว็บทำได้ง่ายไหม ให้เพื่อนที่ไม่เคยเข้าเว็บมาก่อน ลองเข้าเว็บไซต์ดูว่า ใช้งานได้ง่าย หาสิ่งที่ต้องการเจอหรือไม่
6. เช็คว่า Images ใส่คำอธิบายภาพ (img alt) ไว้หรือไม่ วิธีการเช็คคือ : คลิ๊กขวาที่ภาพ และ กด ‘ Inspect element ‘ มองหาโค๊ด alt=”…….” ว่ามีข้อความอธิบายเกี่ยวกับภาพหรือไม่ ข้อความตรงส่วนนี้ Google จะใช้ใน Google Images อีกด้วย
7. เนื้อหา Text ในหน้าเว็บมีข้อมูลดี น่าสนใจ เชิญชวนให้อ่านจบ มีประโยชน์ และกระแทกใจเร้าอารมณ์คนอ่านมากพอไหม เพราะนี้ส่วนหนึงที่ช่วยให้คนอ่านมันจนจบ และแชร์ได้
8. เขียนเนื้อหา Text ไม่ซ้ำใคร (Unique) เพราะมันจะช่วยเร่งความเจ๋งของเว็บไซต์ คนอ่านชอบ Google รัก
9. ส่วนล่างสุดเว็บ (Footer) มี Nagivator Menu ที่ใช้งานง่าย เพราะบ่อยครั้งที่คนจะเลื่อนลงด้านล่างสุด แต่เนตช้าไม่เห็นภาพ การเห็นเมนูด้างล่างจะช่วยให้คนอ่านเข้าใจ และคลิ๊ก Link ต่อได้
10. เว็บไซต์สะอาดตา ไม่รก และไม่มีเนื้อหาที่เก่าเก็บล้าสมัย การอัพเดทเนื้อหา และเลือกใช้ภาพประกอบที่ทันสมัยสวย ช่วยสร้างแบรนด์ได้ดี

ออกแดดอย่างไร? ไม่ให้ผิวคล้ำเสีย 4 วิธีนี้ช่วยได้!

ผิวสาวที่ขาวกระจ่างใสเป็นอะไรที่น่ามองอย่างยิ่ง แต่หากเมื่อไรที่ต้องออกแดดสาวๆ หลายคนก็มักกังวลกันเป็นทิวแถว ว่าหลังจากออกแดดกลับมาแล้วผิวจะต้องประสบกับปัญหาผิวหมองคล้ำ อันเกิดจากรังสียูวีทำลายแน่นอน
จริงอยู่ค่ะที่เราทุกคนจะต้องมีผิวหมองคล้ำและมีริ้วรอยตามมาง่าย หากออกแดดแล้วไม่รู้จักป้องกัน แต่หากคุณทำตามคำแนะนำจากเราตามนี้ ออกแดดคราวหน้ารับรองหมดกังวลเรื่องปัญหาผิวคล้ำเสียจากแดดแน่นอน ตามมาดูกันเลยนะคะว่าเราจะมีวิธีรับมือแสงแดดไม่ให้ทำลายผิวสวยของคุณได้อย่างไร

1.ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
ไม่อยากมีผิวคล้ำเสียง่ายมาก ประการแรกให้คุณทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะก่อนออกจากบ้านควรทาล่วงหน้าก่อนออกแดดประมาณ 30 นาทีและควรเลือกชนิดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป นอกจากนี้ หากต้องตากแดดนานอย่าลืมทากันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมงนะคะ จะได้ช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้อย่างยาวนานมากขึ้น
2.พร็อพเสริม..ตัวช่วยกันแดดที่ห้ามพลาด
นอกจากการทาครีมกันแดด และการสวมเสื้อผ้าที่ช่วยปกปิดผิวหนังจากแดดได้อย่างมิดชิดแล้ว สาวๆ อย่าลืมตัวช่วยที่จะเป็นพร็อพเสริมในการแต่งตัวและยังช่วยกันแดดในตัวได้ด้วย อันได้แก่ หมวก ร่มสีสันสวยๆ และแว่นตากันแดด เป็นต้น หรืออาจจะเป็นผ้าคลุมไหล่สวยๆ สักผืนที่จะช่วยปกปิดผิวหนังจากแดด แถมยังกลายเป็นไอเท็มที่จะปรับลุคการแต่งตัวของสาวๆ ให้สวยสะกดตา ดูมีเสน่ห์โดดเด่นได้มากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

3.สวมเสื้อผ้าที่ช่วยปกปิดผิวมิดชิด
รู้ทั้งรู้ว่าจะออกแดดและอาจจะต้องเจอแดดเป็นเวลานาน สาวๆ ควรเลือกสวมเสื้อผ้าที่จะช่วยปกป้องแสงแดดไม่ให้ทำลายผิวได้อย่างโดยตรงไว้ด้วยนะคะ แม้ว่าคุณจะทาครีมกันแดดแล้วก็ตาม แต่ทว่าแสงแดดเมืองไทยเราร้อนแรงนัก ปกป้องอีกชั้นก็ใช่ว่าจะเสียหาย แถมยังช่วยถนอมอุณหภูมิของร่างกายไม่ให้เสี่ยงต่อการป่วยเป็นไข้แดดได้ง่ายด้วย
4.กินอาหารป้องกันแสงแดด
นอกจากการปกป้องรังสี UV จากภายนอกแล้ว สาวๆ รู้มั้ยคะว่ายังมีอาหารบางประเภทที่คุณสามารถกินเพื่อช่วยป้องกันรังสี UV ได้ด้วย ได้แก่ มะเขือเทศ ฟักข้าวและชาเขียวค่ะ สำหรับฟักข้าวและมะเขือเทศนั้นมีไลโคปีนสูง สามารถช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของคอลลาเจน แถมยังช่วยผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวได้มากยิ่งขึ้น ขณะที่ชาเขียวมีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดดไม่ให้ทำลายผิวได้ หากใครที่กลัวว่าการตากแดดจัดจะทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวหมองคล้ำและเกิดมะเร็งผิวหนังตามมา หมั่นกินอาหารทั้ง 3 ชนิดนี้เป็นประจำ รับรองบอกลาปัญหาผิวเสียจากแดดได้อย่างมั่นใจเลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาวๆ รู้ทั้งรู้ว่าแสงแดดมันมีอานุภาพที่เผาผิวสาวให้ไหม้และคล้ำเสียง่ายดายเพียงใด จากนี้ต้องหันมารับมือด้วยวิธีป้องกันแดดจากเรากันแล้วนะคะ แล้วผิวสวยๆ จะเป็นของคุณถาวรแน่นอน